บานไม่รู้โรย แก้ตกขาว ไข้ทับฤดู

ดอกบานไม่รู้โรยที่เห็นกันว่าขึ้นอยู่ทั่วไปและออกดอกทั้งสีขาวสีแดงนั้น ไม่เพียงแต่ใช้ในการบูชาพระ หรือใช้เป็นไม้ดอกเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวตามที่หลายๆคนเข้าใจและมองข้ามประโยชน์ที่แท้จริงของดอกไม้ชนิดนี้ไปอย่างง่ายดาย

gomphrena-globosa-17803_640

แต่มีใครจะรู้บ้างว่า? บานไม่รู้โรยแก้ตกขาว – ไข้ทับฤดูได้ เป็นตำรับยาของคนสมัยโบราณที่ใช้ได้ผลเลยทีเดียว เพราะอาการไข้ทับฤดูที่ทำให้สาวๆต้องมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัว คนสมัยก่อนจึงนำดอกบานไม่รู้โรยมาต้มดื่มเพื่อแก้อาการไข้ทับฤดูให้ทุเลาลง และยังสามารถนำดอกบานไม่รู้โรยมาต้มดื่มเพื่อเป็นยาแก้อาการตกขาวในสตรีได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยปรับฮอร์โมนให้เกิดความสมดุลภายในร่างกาย

สำหรับการใช้ตำรับยา ดอกบานไม่รู้โรยแก้ตกขาว – ไข้ทับฤดู นั้นมีตำราอยู่ว่า หากจะใช้ในอาการแก้ไขทับฤดูสามารถใช้ได้ทั้งสองสีคือสีขาวและสีแดงอย่าละ 1 กำมือ นำมาต้มดื่มครั้งละแก้ว จากนั้นก็ให้ต้มซ้ำดื่มจนจืดโดยสามารถใช้ดื่มแทนน้ำได้ในระหว่างวัน

gomphrena-491063_640

ส่วนที่ใช้ทำเป็นยาของบานไม่รู้โรยนั้น สามารถใช้ได้ทั้ง ดอก ต้น และราก โดยดอกแก่ที่มีรสค่อนข้างจืด ใช้ในการบำรุงตับ แก้ปวดศรีษะ ขับเสมหะ แก้บิด เป็นต้น

ส่วนราก ก็ใช้ในการแก้พิษต่างๆ และขับปัสสาวะในกรณีผู้ที่มีปัญหาเรื่องการปัสสาวะยาก

ส่วนลำต้นและรากนั้น สามารถใช้เป็นยาในการแก้หนองในและขับประจำเดือนได้ และยังสามารถแก้ในส่วนของกามโรคต่างๆที่เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน โดยมีข้อมูลว่า ในหมู่เกาะชวาของประเทศอินโดนีเซีย มีความนิยมในการรับปทานดอกบานไม่รู้โดยอยู่เป็นประจำ โดยพวกเขารับประทานดอกไม้ชนิดนี้เฉกเช่นพืชผักผลไม้ที่ทานได้ชนิดอื่นๆ   และโดยส่วนมากก็มักจะนิยมดอกบานไม่รู้โรยสีขาวมากกว่าสีแดง แต่ทว่าทั้งสองสีก็มีสรรพคุณทางยาที่ดี จึงสามารถนำมาต้มรวมกันเพื่อรักษาโรคได้

gomphrena-460659_640

สำหรับการใช้ บานไม่รู้โรยแก้ตกขาว – ไข้ทับฤดู ในการต้มดื่มเป็นเวลานานเท่าไหร่ จึงจะบรรเทาได้และมีข้อห้ามอย่างไรบ้างก็ควรต้องปรึกษาแพทย์แผนโบราณ และในการใช้บานไม่รู้โรยเพื่อบรรเทาโรคอื่นๆก็เช่นเดียวกัน ควรปรึกษาแพทย์แผนไทย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรจะดีที่สุด

หรือคุณกำลังหมายถึง...

ประโยชน์ของการอบสมุนไพร

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine การอบสมุนไพรนั้นเรียกได้ว่า เป็นการบำบัดร่างกายด้วยความร้อน ซึ่งได้พัฒนามาจากเมื่อแม่ลูกอ่อนที่คลอดลูกใหม่ ๆ แล้วต้องอยู่ไฟ หรืออังไฟ อาบน้ำร้อน และดื่มน้ำร้อนแช่สมุนไพรต่าง ๆ หากแต่ในปัจจุบันนี้ก็ได้พัฒนามาเป็นการอบสมุนไพรด้วยสมุนไพรนานาชนิด เช่น …