แสงแดดที่ส่องจ้ามาจากดวงอาทิตย์ซึ่งทำให้เรารู้สึกร้อนในแต่ละวัน โดยเฉพาะหากเป็นฤดูร้อนแล้วยิ่งร้อนมากจนทนไม่ไหว จึงเกิดความสงสัยกันว่า ทำไมดวงอาทิตย์จึงร้อนนักและสามารถส่องแสงมาได้แรงขนาดนี้ทั้งๆที่อยู่นอกโลก
สำหรับดวงอาทิตย์นั้น มีอายุนานมากกว่า 5 ล้านปีแล้ว และจัดได้ว่าเป็นดาวฤกษ์ที่สำคัญมากในระบบสุริยะ อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นดาวฤกษ์ที่อยูใกล้โลกมากที่สุดอีกด้วย เหตุที่ว่าทำไมดวงอาทิตย์จึงร้อน มีข้อมูลระบุไว้ว่า ด้วยองค์ประกอบส่วนใหญ่ของดวงอาทิตย์ ที่เป็นก๊าซไฮโดรเจน อีกทั้งบริเวณศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ มีแรงดันและอุณหภูมิที่สูงมากๆ จึงเป็นเหตุให้เกิดการหลอมรวมกันของก๊าซไฮโดรเจนและก๊าซฮีเลียม
ซึ่งการทำปฏิกิริยาเหล่านี้ เป็นผลให้พลังงานของดวงอาทิตย์แผ่ขยายเป็นวงกว้างออกมามาก พลังงานที่ว่านี้ คือพลังงานความร้อนที่มากมายมหาศาลซึ่งมาพร้อมๆกับแสงสว่างที่มากพอๆกัน กระบวนการเหล่านี้ถูกเรียกว่า “ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน” จึงทำให้ดวงอาทิตย์ร้อนและมีแสงสว่างอย่างที่เราเห็นกันอยู่
ข้อมูลระบุด้วยว่าแกนของดวงอาทิตย์ มีอุณหภูมิราว 27 ล้านองศาฟาเรนไฮต์ ทว่าในส่วนของพื้นผิวดวงอาทิตย์นั้นมีอุนหภูมิที่ต่ำกว่าราวๆ หมื่นองศาฟาเรนไฮต์ จึงทำให้เรารู้สึกร้อนเมื่อตากแดด แม้ว่าดวงอาทิตย์จะ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 150 ล้านกิโลเมตรก็ตาม แต่ความเร็วของแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกมีความเร็วมาก เพียง 8.3 นาทีเท่านั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมเวลาตากแดดจึงร้อนกันนัก
แม้ว่าความร้อนและแสงจากดวงอาทิตย์จะส่องมายังพื้นโลกในระยะเวลาอันรวดเร็วและทำให้เกิดความร้อนจนทนไม่ไหว แต่ประโยชน์ของความร้อนและแสงอาทิตย์ก็มีอยู่มากทีเดียว เพราะหากขาดแสงจากดวงอาทิตย์แน่นอนว่า จะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกำเนิดได้
เนื่องจากสรรพสิ่งจำเป็นต้องอาศัยแสงสว่าง เช่นต้นไม้ หากไม่มีต้นไม้ ไม่มีพืชพรรณอื่นๆ มนุษย์จะดำรงอยู่ได้อย่างไร อีกทั้งความร้อนจากดวงอาทิตย์ก็มีประโยชน์มากทีเดียวต่อการดำรงชีวิตของทุกสรรพสิ่ง เพราะหากขาดความอบอุ่นไปก็คงไม่ดีแน่