หลายคนที่เลี้ยงสุนัขเพศเมีย คงมีความสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าจะรู้ได้อย่างไรหากสุนัขตั้งครรภ์?! ซึ่งให้สังเกตดูว่าเวลาสุนัขเริ่มโตแล้ว อยู่ในภาวะที่เป็น “สัด” และในกรณีที่เลี้ยงแบบเปิด หรือมีสุนัขเพศผู้อยู่ด้วย โอกาสที่จะตั้งครรภ์มีสูง

แต่การจะสังเกตว่าสุนัขท้องหรือไม่ ในช่วงแรกๆอาจจะดูยากไปสักนิด เนื่องจากสุนัขยังมีพฤติกรรมปกติทุกอย่าง
หากแต่สังเกตดีๆก็จะพบถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เช่น สุนัขมีรูปร่างที่เริ่มผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องที่มีลักษณะขยายใหญ่ขึ้น บางคนไม่ทราบก็อาจคิดได้ว่า สุนัขอ้วนขึ้น หากแต่เวลาผ่านไปร่วมเดือนจะสังเกตว่ามันใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
การสังเกตสุนัขท้อง ประการต่อมาคือการกินของสุนัข ที่กินจุมากขึ้น
หรือกินไม่เคยอิ่ม บางตัวอาจจะมีลักษณะนิสัยการกินที่เปลี่ยนไป เช่น เคยกินอาหารสายหน่อย ก็เริ่มมีความอยากอาหารในตอนเช้าหรือก่อนเวลาเดิมที่กินมากๆ บางตัวกินไม่อิ่ม ถึงขนาดไปคุ้ยเขี่ยขยะก็มี ซึ่งโดยมากแล้วสุนัขท้องจะกินจุ แต่ในกรณีที่เบื่ออาหาร ทานอาหารน้อยลงก็มีเหมือนกัน แต่ส่วนมากเราจะเห็นสุนัขท้องกินอาหารจุมากกว่า

ต่อมาคือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากใครที่เคยอุ้มสุนัขอยู่เป็นประจำ แล้วจะสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับน้ำหนักตัว และหากผ่านไประยะหนึ่ง ท้องที่เริ่มขยายก็จะใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าผิดปกติ หัวนมจะมีลักษณะสีชมพูอ่อนๆ และหัวนมมีลักษณะขยายออก และมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อตอนที่สุนัขเริ่มตั้งครรภ์หลายเดือน อีกกรณีหนึ่งก็คือ ให้สังเกตช่องคลอดของสุนัขที่ขยายใหญ่มากขึ้นกว่าปกติ

สำหรับพฤติกรรมอื่นๆเกี่ยวกับการสังเกตสุนัขท้อง
ก็คือ การที่สุนัขอาจจะนอนมากขึ้น เล่นซนน้อยลง ทั้งๆที่เมื่อก่อนสนุกร่าเริง นั่นก็เป็นเพราะสุนัขท้องมีอารมณ์ที่แปรปรวนนั่นเอง หรือบางตัวก็อาจจะเก็บตัวอยู่ตัวเดียว ไม่อยากเล่นกับสุนัขตัวไหน แม้แต่เจ้าของเองก็ตาม
อย่างไรก็ดี หากสังเกตอาการเบื้องต้นว่าสุนัขอาจจะท้อง
เช่น อย่างที่กล่าวไปว่าหน้าท้องขยายใหญ่ หัวนมเริ่มขยาย กินจุมากขึ้น นอนมากขึ้น น้ำหนักเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้นำสุนัขไปตรวจกับสัตวแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและนำว่า ควรจะปฏิบัติกับสุนัขอย่างไร