การรักษาโรคต่างๆในสัตว์เลี้ยงรวมถึงสุนัขจากความเชื่อที่บอกต่อๆกันมา เพียงไม่อยากเสียเงินมากมายนั้น อาจจะนำมาซึ่งความเป็นอันตรายกับน้องหมาได้ เช่น การรักษาโรคเรื้อนในสุนัขด้วยน้ำมันก๊าดและน้ำมันเครื่อง ซึ่งเราจะเห็นได้โดยทั่วไปว่า มีการใช้น้ำมันก๊าดและน้ำมันเครื่องในการรักษาสุนัขที่เป็นโรคเรื้อน
ซึ่งปรากฎว่าในเวลาต่อมาสุนัขหายจากอาการเหล่านั้น เช่นมีขนขึ้นตามตัว หายจากอาการคัน จึงคิดว่าการใช้วิธีนี้ถูกต้องและเหมาะสม หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ในน้ำมันเครื่องมีกำมะถัน ซึ่งมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้เห็นว่าในสุนัขบางตัวเมื่อถูกทาด้วยน้ำมันเครื่องแล้ว ขนจะขึ้นปกคลุมตามร่างกาย จึงทำให้เชื่อว่าการใช้น้ำมันเครื่องนั้นรักษาโรคเรื้อนได้

ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับการรักษาสุนัข เนื่องจากในน้ำมันเครื่อง มีสารต่างๆที่เป็นพิษต่อร่างกายของสุนัขไมว่าจะเป็นโลหะหนักต่างๆ หรือสารไฮโดรคาร์บอน ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง อีกทั้ง ในกำมะถันซึ่งถูกอยู่ในรูปอนินทรีย์ยังเหตุที่สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งในสุนัขได้อีกด้วย
และจะเห็นว่าในเวลาที่เอาน้ำมันเครื่องทาบนตัวของสุนัขนั้น เขาจะมีอาการแสบ บางตัวก็ร้อง หรือดิ้น นั่นก็เพราะน้ำมันเครื่องทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหลุดลอกได้ สุนัขจึงเกิดความเจ็บปวดทรมาน และกลิ่นฉุนของน้ำมันเครื่องยังระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจของสุนัขอีกด้วย

ฉะนั้นหากไม่อยากทรมานสัตว์ก็ไม่ควรใช้วิธีนี้ เพราะมันเป็นความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับการรักษาสุนัข ซึ่งการรักษาโรคเรื้อนอย่างถูกต้องอย่างไร ควรจะปรึกษาสัตวแพทย์ดีกว่า
อีกกรณีหนึ่งคือการใช้แอลกอฮอล์เช็ดหูของสุนัขเพื่อทำความสะอาดซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเนื่องจาก การเยื่อบุในหูของสุนัขนั้นบอบบางมาก เขาอาจจะเกิดอาการแสบร้อนได้ หากจะเช็ดหูควรจะใช้น้ำยาเช็ดหูโดยเฉพาะเท่านั้น และที่สำคัญคือเมื่อสุนัขป่วยไม่ควรซื้อยามาให้สุนัขทานเอง แต่ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอๆ ซึ่งรวมไปถึงการให้วิตามินหรืออาหารเสริมต่างๆกับสุนัขด้วย
หากใครที่ต้องการเลี้ยงสุนัขก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่า หากเจ็บป่วยขึ้นมาเราสามารถดูแลเขาได้หรือไม่ เพราะสุนัขคือสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีโรคภัยไข้เจ็บเป็นของธรรมดา ฉะนั้นควรศึกษาความพร้อมก่อนทุกครั้งที่จะนำมาเลี้ยง